สหประชาชาติจัดประชุมเกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ

สมาชิกส่วนหนึ่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระบุว่า พวกตนกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ โดยกล่าวว่าเกาหลีเหนือกำลังสังเวยความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนตนเองไปใช้กับโครงการขีปนาวุธ

บรรดาตัวแทนได้จัดประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม โดยเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธที่ร่อนเหนือทะเลญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้

ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าวว่า ชาวเกาหลีเหนือกว่า 80,000 คนอยู่ในค่ายกักกันนักโทษ โดยพวกเขาถูกบังคับใช้แรงงานและถูกทรมานที่นี่ เธอกล่าวเสริมว่าเกาหลีเหนือเลือกที่จะทำลายประชาชนของตนเองเพื่อเดินหน้าโครงการขีปนาวุธ

เธอกล่าวว่าการยิงขีปนาวุธหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ สมควรให้สหประชาชาติต้องดำเนินการโดยเร็วในช่วงไม่กี่วันจากนี้ และว่า “คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องจัดประชุมแบบเปิดที่เราจะประณามการยิงทดสอบขีปนาวุธ และเราต้องประณามสิ่งนี้อย่างเต็มที่และด้วยท่าทีอันเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างหนักแน่น เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เลยนับตั้งแต่ปี 2560”

เธอกล่าวหา “สมาชิก 2 ชาติ” ว่าขัดขวางไม่ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการปัญหานี้ได้อย่างเป็นเอกฉันท์ โดยดูเหมือนเป็นการสื่อถึงจีนและรัสเซีย

ด้านนักการทูตของจีนก็โต้กลับ โดยกล่าวว่าการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม ซึ่งมีสหรัฐเป็นประธานร่วมนั้น “ไม่สร้างสรรค์เลย”

การประชุมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดยญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วย โดยทั้งสองชาติมีกรณีที่ยังไม่คลี่คลายเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งกรณีดังกล่าวรวมถึงการที่ชาวญี่ปุ่นและชาวเกาหลีใต้ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไป

รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่ามีชาวญี่ปุ่นอย่างน้อย 17 คนที่ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวไปในช่วงทศวรรษที่ 1970 ถึง 1980 มี 5 คนที่กลับสู่ญี่ปุ่นแล้วในปี 2545 แต่อีก 12 คนยังคงไม่ทราบชะตากรรม

โทมัส-กรีนฟิลด์กล่าวว่าเธอต้องการทำงานร่วมกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เพื่อ “สร้างแรงกดดันมากขึ้น” ต่อเกาหลีเหนือเกี่ยวกับกรณีเหล่านี้