ผู้คนในหลายพื้นที่ของยูเครนเริ่มคุ้นเคยกับสถานการณ์ที่ค่อนข้างสงบ แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พวกเขาถูกรัสเซียโจมตีด้วยอาวุธต่าง ๆ รวมถึงขีปนาวุธกว่า 80 ลูก การโจมตีทั่วประเทศทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน
บรรดาผู้นำรัสเซียอ้างว่า ชาวยูเครนได้ข้ามพรมแดนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและได้ทำสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "การโจมตีก่อการร้าย" ในภูมิภาคบริอันสค์ทางตะวันตก พร้อมเรียกการโจมตีครั้งล่าสุดนี้ว่าเป็น "การโจมตีตอบโต้ครั้งใหญ่" พวกเขากล่าวว่าได้โจมตี "โครงสร้างพื้นฐานทางทหาร" โดยใช้สรรพอาวุธรวมทั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง
ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวว่า รัสเซียกำลังพยายาม "ข่มขู่" ประชาชนยูเครนโดยใช้สิ่งที่เขาเรียกว่า "กลยุทธ์อันน่าสมเพช" พร้อมเสริมว่า แม้รัสเซียจะสามารถ "ข่มขวัญพลเรือน" ได้ แต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่ทำได้
การโจมตีได้ทำให้เกิดไฟฟ้าดับที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเชีย คนงานจำต้องใช้เครื่องปั่นไฟเพื่อให้โรงไฟฟ้านี้ทำงานต่อไปก่อนจะเชื่อมต่อไฟฟ้าได้อีกครั้ง