ตุรกีเผชิญความท้าทายด้านการสนับสนุนการฟื้นฟูบูรณะอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหายหนักเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาพอดี
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เกิดแผ่นดินไหวที่มีขนาด หรือแมกนิจูด 7.8 ทางตอนใต้ของตุรกี ใกล้กับพรมแดนที่ติดกับซีเรีย แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวและแรงสั่นสะเทือนระลอกหลังที่ตามมาทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 52,000 คน แบ่งเป็นในตุรกี 45,968 คน และในซีเรีย 5,914 คน
รัฐบาลตุรกีเผยว่า ตึกอาคารกว่า 200,000 หลังพังทลายลงมา หรือได้รับความเสียหายหนักในตุรกี เจ้าหน้าที่ระบุว่า ประชาชน 14 ล้านคน หรือร้อยละ 16 ของประชากรตุรกี สูญเสียบ้านเรือนของตน หรือไม่ก็ได้รับผลกระทบ
มีรายงานว่า ประชาชนมากถึง 1.44 ล้านคนจำต้องไปอาศัยอยู่ในเต็นท์ ผู้อพยพหลบภัยกำลังร้องทุกข์ว่าน้ำ อาหาร และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันไม่ได้รับการจัดส่งมายังพื้นที่ประสบภัย
ประชาชนบางส่วนในจังหวัดคาห์รามานมารัชทางตอนใต้ของประเทศที่ได้รับความเสียหายหนัก ยังคงอาศัยอยู่ในเต็นท์ที่ทำขึ้นง่าย ๆ โดยอยู่ในสภาพยากลำบากแบบไม่มีไฟฟ้าและน้ำใช้
ขณะเดียวกัน ผู้รอดชีวิตในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองกำลังต่อต้านรัฐบาลควบคุมอยู่นั้น ดูเหมือนได้รับสิ่งของบรรเทาทุกข์ไม่เพียงพอ สิ่งของต่าง ๆ ที่หลายประเทศส่งไปยังกรุงดามัสกัสเมืองหลวงของซีเรียกำลังรอการส่งมอบต่อไปยังพื้นที่ดังกล่าว