แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลรายงานว่า กองกำลังรัสเซียใช้ระเบิดพวง 7 ครั้งในเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน และทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ปัจจุบันอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับห้ามใช้ระเบิดพวง เนื่องจากเป็นอาวุธโหดร้ายที่สังหารผู้คนแบบไม่เลือกเป้า
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลส่งนักวิจัยไปยังเมืองคาร์คิฟ นักวิจัยกลุ่มนี้สัมภาษณ์ผู้คน 160 คน ซึ่งรวมถึงผู้รอดชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียด้วย และนักวิจัยก็รวบรวม พร้อมทั้งวิเคราะห์วัตถุหลักฐานจากพื้นที่ต่าง ๆ ที่ถูกโจมตีด้วย
ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระบุว่า เจ้าหน้าที่พบเศษซากที่เป็นส่วนประกอบซึ่งมีลักษณะเฉพาะสำหรับระเบิดพวง
ทางองค์กรสรุปว่ากองกำลังรัสเซียโจมตีด้วยระเบิดพวง 7 ครั้งในพื้นที่ทั่วเมืองคาร์คิฟ ระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิ้นเดือนเมษายน
รายงานเรียกร้องให้ "นำตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยดำเนินคดีผ่านการพิจารณาอย่างเป็นอิสระ ปลอดอคติ และยุติธรรมสำหรับอาชญากรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยยึดพื้นฐานตามกฎหมายระหว่างประเทศ"